วิธีการขาย ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เป็นอาชีพเสริม รวมเคล็ดลับการทำกำไรและเรียกลูกค้า

การดำเนินชีวิตของคนไทยในยุคนี้ ไม่ว่าอะไรก็ดูเร่งรีบไปเสียหมด โดยเฉพาะเรื่องของการรับประทานอาหารเช้าก็ต้องเร่งรีบเช่นกัน ยิ่งกับคนทำงานที่ต้องแข่งกับเวลาละก็ไม่ต้องพูดถึง อาหารเช้าของคนทำงานจึงจำเป็นต้อง สะดวก รวดเร็ว และอิ่มท้อง "แล้วอะไรล่ะ?"  ที่ง่าย สะอาด สะดวก รวดเร็ว และอิ่มท้อง คำตอบก็คือ"ข้าวเหนียวหมูปิ้ง" 

ช่องทางทำเงินในวันนี้นายอาชีพจึงหยิบยกธุรกิจทำเงินอีกหนึ่งอาชีพที่ทำเงินว่าด้วยเรื่องการขายข้าวเหนียวหมูปิ้งมาวิเคราะห์ สาเหตุที่การขายหมูปิ้งยังเป็นอาชีพเสริมที่ทำเงินให้กับผู้ขายอยู่ ก็มีไม่กี่เหตุผลครับ อย่างที่กล่าวไว้ วัฒนธรรมการกินดื่มของคนไทยโดยปกตินั่นกินง่ายอยู่ง่าย สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาและมีชีวิตที่เร่งรีบ ข้าวเหนียวหมูปิ้งจึงตอบโจทย์และครองแชมป์อาหารเช้าแบบเร่งด่วนได้ดีที่สุดครับ

พัฒนาการของข้าวเหนียวหมูปิ้งเสียบไม้
ทุกวันนี้ก้าวไกลไปมากครับ สูตรต่างๆได้เกิดขึ้นมากมาย เช่น หมูปิ้งนมสด หมูปิ้งพริกไทยดำ หมูปิ้งสมุนไพร และอีกมากมายที่เราเห็นตามท้องถนน การทำหมูปิ้งเป็นศิลปะอย่างหนึ่งซึ่งไม่ได้เอาแค่เนื้อหมูมาหั่นบางๆแล้วเสียบไม้ขายแบบลวกๆ คุณภาพและความแตกต่างคือจุดแข็งของการขายครับ ยิ่งผู้ขายสร้างความแตกต่างมากเท่าไหร่ ผู้บริโภคก็ต้องอยากลิ้มลองเป็นเรื่องธรรมดา อีกทั้งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับหมูปิ้งที่ทำขายอีกด้วย

ลองนึกภาพตามครับ มีร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งอยู่ 2 ร้านอยู่ติดกัน รสชาติเหมือนกัน ราคาเท่ากัน
ร้านแรก ธรรมดามากๆไม่มีป้ายไม่มีอะไรเลย ขายไปวันๆ
ร้านที่สอง เจ้าของยิ้มแย้มแจ่มใส่ ติดป้ายร้าน สร้าง story และเรื่องราวให้หมูปิ้ง เช่น หมูปิ้งเจ้าเก่าจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา อร่อย สะอาด ราคากันเอง
ขอถามคุณผู้อ่านว่าร้านข้าวเหนียวหมูปิ้ง 2 ร้านนี้ ร้านไหนน่าเข้าไปอุดหนุนครับ

วิธีการขายหมูปิ้งให้ได้กำไร รวมถึง สูตรการทำหมูปิ้ง
จริงแล้วสูตรการทำหมูปิ้งก็ไม่ได้มีอะไรมากมายครับ อยู่ที่การพลิกแพลงนิดๆหน่อยๆ สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือการเลือกวัตถุดิบหรือการเลือกใช้ส่วนไหนของตัวหมู โดยส่วนใหญ่ผู้ขายมักจะเลือกส่วนที่เรียกว่า สันคอหมู หรืออาจจะเลือก สันขาหลัง และติดมันเล็กน้อย  การเลือกส่วนจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆครับ เพราะรสชาติย่อมแตกต่างกัน

เมื่อได้เลือกสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือสูตรที่ใช้ในการหมัก
สูตรและส่วนผสมทั่วๆไปที่ใช้ในการหมักหมูปิ้ง ก็มีดังนี้ น้ำตาลทราย เกลือป่น ซอส ซีอิ้วดำ น้ำมันหอย พริกไทย รากผักชี เครื่องเทศ น้ำมันพืช นมสด หรือ นมข้มจืด อื่นๆ นำมาผสมแล้วหมักให้เข้ากัน ส่วนใครอยากจะเพิ่มเติมอะไรลงไปก็แล้แต่สูตรของแต่ละคน เช่น สมุนไพร เป็นต้น

คราวนี้ มาพูดถึงข้าวเหนียวกันบ้างครับ ข้าวเหนียวถือเป็นองค์ประกอบสำคัญเลยทีเดียว อย่าคิดว่าไม่สำคัญนะ เพราะหมูปิ้งร้อนๆ แน่นอนว่าก็ต้องคู่ควรกับข้าวเหนียวร้อนๆนุ่มๆด้วยเช่นกัน คงไม่มีลูกค้าคนไหนชอบกินข้าวเหนียว แข็งๆ เย็นๆ เชื่อผมเถอะ

การตั้งราคาหมูปิ้ง 
การตั้งราคาต้องให้สมเหตุสมผลครับ หักลบกลบต้นทุนทุกอย่างแล้วก็ควรให้พออยู่ได้ก่อนในช่วงแรกๆ พอติดตลาดแล้วลูกค้าถูกใจแล้วบอกต่อ ต่อไปก็ขายไม่ทันเองแหละครับ ขอให้จำหลักง่ายๆว่า ลูกค้าชอบ ประหยัด สะอาด อร่อย และมีคุณภาพ อย่าลืมว่าคนไทยชอบของถูกและดีมีประโยชน์ครับ (แม้แต่ตัวนายอาชีพเอง ก็ชอบครับ ของถูกและดี อิอิ)

ทำเลที่ตั้งในการขายหมูปิ้งก็สำคัญนะ
การตั้งร้าน ควรหาที่ตั้งที่มีคนพลุกพล่าน หรือมีผู้คนพอสมควร เช่น แถวๆ โรงเรียน บริษัท โรงงาน คิวรถ หมู่บ้าน ปั้มน้ำมัน ตลาดสด  ทำเลทองที่กล่าวมานี้ จะช่วยทำให้ธุรกิจร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งของท่านนั้นไปได้ดีและขายหมดในพริบตา เพราะควันและกลิ่นของหมูปิ้งจะเป็นตัวเชิญชวนลูกค้าให้แวะเวียนมาเอง ไม่ต้องไปจ้างโฆษณาที่ไหนครับ

ช่วงเวลาในการขายหมูปิ้ง
นายอาชีพแนะนำให้ขายในช่วงเช้า หรือช่วงเย็นนะครับ หรือถ้าขายดีจริงๆก็เหมาสองรอบเลยก็ไม่ว่า ไม่แนะนำให้ขายในช่วงกลางวันนะครับ เพราะช่วงกลางวันคนส่วนใหญ่มักจะเลือกรับประทานกันครับ น้อยมากที่จะมีข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นตัวเลือกของอาหารกลางวันครับ

สรุปอาชีพเสริมการทำหมูปิ้ง
ธุรกิจการทำข้าวเหนียวหมูปิ้งยังเป็นอาชีพเสริมที่ทำเงินที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานครับ สำหรับผู้ที่ต้องการทำเป็นอาชีพอิสระก็ควรที่จะศึกษาสูตรต่างๆและนำมาประยุกต์หรือดัดแปลงให้แตกต่างครับ และการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย ที่สำคัญก็เรื่องของทำเลครับ นายอาชีพรับรองว่าธุรกิจร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งจะสร้างรายได้และทำกำไรให้กับท่านได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ

ผู้เขียน: นายอาชีพ

สร้างสติ๊กเกอร์ (Line)เพื่อขาย อาชีพเสริมทำเงินที่มาแรง

วิธีทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขาย
ช่องทางทำเงินในวันนี้นายอาชีพมีข่าวดีสำหรับผู้ต้องการหารายได้เสริมมาให้ได้เฮกันครับ
เมื่อ Line (ไลน์) แอพพลิเคชั่นสุดฮอตที่มีผู้ใช้กันทั่วโลก ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้สร้างสติ๊กเกอร์และส่งผลงานของตัวเองมาวางขายใน Shop ของไลน์

โดยทางไลน์ไม่ได้คิดค่าธรรมเนียมในการมาวางขายแต่อย่างใด จากเมื่อก่อนถ้าต้องการส่งสติ๊กเกอร์มาขาย จะต้องใช้เงินถึง 6-7หลักเลยทีเดียว แต่วันนี้มีเพียงเงื่อนไขว่า ทางไลน์จะเป็นผู้กำหนดราคาสติ๊กเกอร์ไว้ที่ประมาณ 100 เยน หรือประมาณ 30 บาท และเมื่อมีการดาวน์โหลดหรือมีการซื้อขายเกิดขึ้น ทางไลน์จะหักส่วนแบ่ง 50เปอร์เซ็น

สำหรับผู้ที่สนใจหาอาชีพเสริม ข่าวที่ไลน์ประกาศออกมาในครั้งนี้ ถือเป็นธุรกิจที่จะทำเงินให้กับนักสร้างสรรค์อย่างมากทีเดียวครับ เนื่องจากผู้คนที่ใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ในขณะนี้ มีผู้ใช้งานหลายล้านคนจากทั่วโลกและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ลองคิดดูนะครับถ้าสติ๊กเกอร์ที่คุณสร้างเกิดติดตาและต้องใจสาวกไลน์เข้า แน่นอนยอดดาวน์โหลดก็จะตามมาอย่างต่อเนื่อง ลองสมมุติดูว่า มีคนหนึ่งแสนคนในประเทศไทยเข้ามาดาวน์โหลด โดยไม่ต้องถึงกับมีผู้คนจากทั่วโลกมาดาวน์โหลดหรอก ขอแค่หนึ่งแสนคนเท่านั้น ผมรับรองว่าเงินล้านอยู่ไม่ไกลเพื่อนๆอย่างแน่นอนครับ

งานนี้จึงถือว่าเป็นข่าวดีจริงๆครับ นายอาชีพเลยอยากแนะนำให้เพื่อนๆศึกษารายละเอียดดูครับ ที่ Line Creators Market โดยทางไลน์ได้ให้รายละเอียดต่างๆรวมถึงบอกวิธีการสร้างสติ๊กเกอร์และวางขายครับ
การสร้างสติ๊กเกอร์เพื่อขายในไลน์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางของอาชีพครับ ไม่แน่นะครับจากอาชีพเสริมที่ทำเล่นๆ อาจจะกลายเป็นอาชีพที่ทำเงินให้กับเราอย่างมหาศาลโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยก็ได้

ผู้เรียบเรียง: นายอาชีพ

สร้างแอพพลิเคชั่นบนมือถือขาย ธุรกิจทำเงินที่สร้างรายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

รวยด้วยการสร้างแอปพิเคชั่นขาย
ในช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวที่พูดถึง ชายชาวเวียดนามคนหนึ่ง ที่สามารถสร้างรายได้ ถึงวันละ 50,000 ดอลลาร์ จากแอพพลิเคชั่น(เกมส์) ด้วยยอดดาวน์โหลดที่มากกว่า 50 ล้านครั้ง ทำให้เขากลายเป็นคนที่ร่ำรวยคนนึงเพียงชั่วข้ามคืน โดยรายได้ที่ว่านั้นมาจากโฆษณาออนไลน์ที่ปรากฎบนแอปพลิเคชั่นของเขา จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ช่องทางทำเงินกับเทคโนโลยีกำลังเป็นที่นิยมเลยทีเดียว หลายๆคนเริ่มหาความรู้เพื่อที่จะสร้างแอพพลิเคชั่นเพื่อหวังว่าจะเป็นนวัตกรรมเพื่อดึงดูดผู้คนให้เข้ามาดาวน์โหลด ยิ่งมียอดดาวน์โหลดมากเพียงใด นั่นก็เท่ากับว่าผู้สร้างแอพก็จะมีรายได้เข้ากระเป๋ามากเท่านั้น ช่องทางการขายแอพพลิเคชั่นหลักๆผู้สร้างก็จะนำไปขายหรือปล่อยให้ดาวน์โหลดฟรีที่ Play Store และ APP Store ดังนั้นตลาดแอพพลิเคชั่นบนมือถือ นายอาชีพมองว่ายังไปได้อีกไกลเพราะจะมีผู้ใช้ระบบ Android และ IOS เพิ่มขึ้นทุกๆวันอย่างต่อเนื่อง

แนวทางการสร้างแอปพลิเคชั่นเพื่อสร้างรายได้
โดยพื้นฐานการสร้างแอปหลักๆผู้สร้างต้องมีสิ่งเหล่านี้
- ต้องมีความรู้
- ต้องมีแรงบันดาลใจ
- ต้องมีความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- ต้องสร้างสิ่งที่ตอบสนองต่อความต้องการของชีวิตประจำวันของผู้คนให้ได้
- ต้องเอาความต้องการของผู้ใช้ประโยชน์เป็นที่ตั้ง เช่น อำนวยความสะดวก หรือ ความบันเทิง

ช่องทางการอบรมและเรียนการสร้างแอปพลิเคชั่นบนมือถือ
สำหรับผู้ไม่มีความรู้พื้นฐานมาก่อน ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ครับ เพราะทุกวันนี้มีคอร์สฝึกอบรม สอนการเขียนแอปในระบบ Android และ IOS ให้กับผู้เริ่มต้น ส่วนผู้ที่มีความรู้ในระดับหนึ่งแล้วนั้น ก็สามารถเลือกเรียนหลักสูตรระดับสูงที่เหมาะกับตนเองเพื่อพัฒนาและต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นไปอีกก็ไม่ว่ากันครับ
(หลักสูตรอบรมการเขียน Apps สามารถค้นดูที่ Google)

ตลาดการขายแอปพลิเคชั่นบนมือถือและสมาร์ทโฟน นายอาชีพยืนยันว่าเป็นธุรกิจที่ทำเงินอย่างแน่นอนครับเพราะการแข่งขันถือว่ายังน้อยอยู่ถ้าเทียบกับสัดส่วนของผู้ใช้งาน สำหรับใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่ ลองเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีดูบ้างครับ ไม่แน่นะครับสักวันเราอาจจะเป็นคนที่สร้างนวัตกรรมใหม่ๆจนชื่อเสียงโด่งดังโดยไม่รู้ตัวเลยก็ได้ และที่สำคัญ Apps ที่เราสร้างขึ้นมาไว้บน Play Store และ APP Storeนั้น ตราบใดที่ยังมีผู้คนเข้าไปดาวน์โหลดและใช้งานอยู่ทุกวัน Applicationนั้นก็จะเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่ทำเงินและสร้างรายได้ให้กับเราอยู่ตลอดเวลาครับ

ผู้เขียน: นายอาชีพ

เพาะถั่วงอกคอนโดเพื่อขาย อาชีพทำเงินของคนที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด

เพาะถั่วงอกขาย อาชีพเสริมสร้างรายได้ดี
หากถามว่า ผักอะไรเอ่ย? ที่ใช้เวลาในเวลาการเพาะปลูกน้อยที่สุด หลายๆคนคงตอบได้อย่างทันทีเลยว่า"ถั่วงอก" วันนี้เหมียววดีจะมาแนะนำอาชีพเสริมจากการเกษตรแบบง่ายๆที่สร้างรายได้ให้กับเราอย่างไม่น้อยเลยทีเดียว นั่นก็คือ "การเพาะถั่วงอกขาย"

ถั่วงอกเกิดจากการเพาะเมล็ดถั่ว ซึ่งสามารถเพาะได้จากถั่วหลายชนิด แต่เมล็ดถั่วเขียวจะเป็นที่นิยมที่สุด ถั่วงอกถือว่าเป็นผักที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงทั้งโปรตีนและเกลือแร่ เวลาที่ใช้ในการเพาะถั่วงอกนั้นก็แสนสั้นใช้เวลาเพียง 3-4 วัน และที่สำคัญถั่วงอกเป็นผักที่ยังมีความต้องการในตลาดสูง เพราะในการปรุงอาหารทั้งไทย จีน อาหารพื้นบ้าน อาหารเจและมังสวิรัต ก็ยังใช้ถั่วงอกเป็นส่วนประกอบหรือเป็นเครื่องเคียง

การเพาะถั่วงอกเพื่อขายนั้น จึงถือว่าเป็นธุรกิจทำเงินที่น่าสนใจและยังคงมาแรงถึงยุคปัจจุบันเลยทีเดียว เหมียววดีจึงอยากแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้ถึงวิธีทำเงินจากการเพาะถั่วงอกเพื่อขายไว้เป็นทางเลือกของอาชีพเสริมกันค่ะ


วิธีการเพาะถั่วงอกเพื่อขาย
การเพราะถั่วงอก มีหลากหลายวิธี เช่น เพาะในทราย เพาะในขวดน้ำ หรือเพาะในหม้อดิน และอีกหลายวิธี แต่วันนี้ เหมียววดี มีวิธีการเพาะถั่วงอกเพื่อขาย ที่เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด แต่จะได้ปริมาณถั่วงอกที่มาก ด้วยวิธีการง่ายๆเหมาะผู้เริ่มต้นกับการเกษตรเชิงสร้างสรรค์ นั่นก็คือ "การเพาะถั่วงอกคอนโด" เราไปดูกันเลยค่ะว่ามีอุปกรณ์อะไรและมีวิธีการเพาะถั่วงอกคอนโดอย่างไร

อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเพาะถั่วงอกคอนโด
1. ถังขนาด 30 ลิตร มีฝาปิดและทึบแสง นำมาเจาะรูที่ก้นถังให้ทั่วเพื่อระบายน้ำที่รดถั่วงอก
2. ผ้ากระสอบ ตัดเป็นวงกลมเท่ากับขนาดก้นถัง จำนวน 7 ผืน
3. ตะแกรงปิ้งปลา ให้นำมาดัดขาให้สูง 1 นิ้ว จะใช้วางที่ก้นถัง เพื่อให้ถั่วงอกคอนโดชั้นแรกหยั่งรากได้
4. ตะแกรงไนล่อน หรือตาข่ายพลาสติก ต้องมีรูเล็กกว่าเมล็ดถั่ว นำมาตัดเป็นวงกลมให้เท่ากับขนาดก้นถัง จำนวน 5 ใบ
5. เมล็ดถั่วเขียว ครึ่งกิโลกรัม นำมาคัดเมล็ดลีบเสียทิ้งไป แล้วแช่เมล็ดถั่วในน้ำอุ่น อัตราส่วน น้ำร้อน:น้ำเย็น 1:1 นาน 4 ชั่วโมง ถ้าแช่ในน้ำธรรมดา นาน 8 ชั่วโมง เมื่อครบชั่วโมงให้นำมาล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง จากนั้นไปเริ่มวิธีการเพาะถั่วงอกคอนโดกันเลยค่ะ

ขั้นตอนการเพราะถั่วงอกคอนโด
ก่อนอื่นเราต้องลวกอุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคก่อนนะคะ จากนั้นก็เริ่มขั้นตอนการเพาะถั่วงอกคอนโดได้เลยค่ะ
1. วางตะแกรงปิ้งปลาลงที่ก้นถัง แล้ววางทับด้วยผ้ากระสอบ 1 ผืน วางตะแกรงไนล่อน 1 ใบ ทับบนผ้ากระสอบ
2. วางเมล็ดถั่วส่วนลงบนตะแกรงไนล่อน เกลี่ยให้ทั่วตะแกรง เทคนิคคืออย่าวางเมล็ดถั่วซ้อนกัน ถั่วงอกจะได้งอกสมบูรณ์และอวบน่ารับประทาน
3. ทำเช่นเดียวกันจนครบทั้ง 5 ชั้น ปิดทับถั่วเขียวชั้นบนสุดด้วยผ้ากระสอบ 2 ผืน ใช้ฝักบัวรดน้ำให้ชุ่ม แล้วปิดฝาถัง
4. ใช้ฝักบัวรดน้ำทุก 4-6 ชั่วโมง แต่ละครั้งให้สังเกตน้ำที่ระบายออกมาจากรูก้นถัง หากยังมีอุณหภูมิสูง ให้รดน้ำต่อไปจนกระทั่งน้ำมีอุณหภูมิปกติ ทำเช่นนี้ 2 คืน 3 วัน
5. เมื่อครบ 3 วัน ให้เตรียมกะละมังใส่น้ำ ยกแผงของถั่วงอกออกมาจากถัง แล้วจะเห็นว่าต้นถั่วงอกจะอยู่ด้านบนของตะแกรงไนล่อนค่ะ ส่วนรากถั่วงอกจะทะลุผ่านผ้ากระสอบ ให้ใช้มีดปาดที่โคนต้นถั่วงอกด้านที่ติดกับตะแกรงไนล่อนลงสู่กะละมัง ล้างถั่วงอกที่ตัดรากแล้วให้สะอาด ถั่วงอกก็พร้อมที่จะนำไปบรรจุถุงเพื่อเตรียมจำหน่ายต่อไป เป็นอันเสร็จขึ้นตอนการเพาะถั่วงอกคอนโดแล้วค่ะ

ช่องทางการขาย
ช่องทางทำเงินจากการขายถั่วงอกคอนโดนั้น มีทั้งในตลาดขนาดเล็ก เช่น ตลาดในหมู่บ้าน ในชุมชน หรือถ้าทำเป็นธุรกิจหลัก ก็สามารถติดต่อกับตลาดค้าส่งผักได้อีกด้วย ถั่วงอกคอนโดยังสามารถทำกลยุทธ์ทางการตลาดได้ ด้วยการบรรจุหีบห่อที่สวยงาม แล้วพิมพ์ข้างถุงได้เลยค่ะว่าเป็นถั่วงอกคอนโดปลอดสารเคมี อุปกรณ์ที่เราใช้ในการเพาะถั่วงอกครั้งแรกทั้งหมดก็สามารถใช้ซ้ำและมีอายุยาวนาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการเก็บรักษา จึงถือว่าประหยัดต้นทุนมากค่ะ

สรุป
การเพาะถั่วงอกคอนโดนั้น ยังแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคด้วยค่ะ เพราะไม่ได้ใช้สารเคมีใดๆในการเพาะปลูกเลย สบายใจทั้งผู้ผลิตและผู้รับประทาน การลงทุนก็เป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว ซื้ออุปกรณ์ในช่วงเริ่มแรก จากนั้นก็สามารถใช้อุปกรณ์เดิมในการเพาะถั่วงอกได้ในครั้งต่อๆไป ทำให้ประหยัดต้นทุนได้มากเลยค่ะ หรือจะเพราะถั่วงอกเพื่อกินเองในครอบครัว ก็ยิ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย มีเงินเหลือเก็บเหลือออมไว้ลงทุนด้านอื่นๆ ยังไงเพื่อนๆก็ลองพิจารณาการเพาะถั่วงอกคอนโดเพื่อขายเผื่อไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของอาชีพเสริมกันดูนะคะ


ผู้เขียน: เหมียววดี

Popular